เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.น.ส. ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำคณะผู้บริหารประกอบด้วยนายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วย รมว.กระทรวง อว. ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ผศ.ดร. วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย รศ.ดร. ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ดร. ณิรวัฒน์ ธรรมจักร์ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม และนางสาวพสุภา ชินวรโสภาค อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่าย อววน. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง เข้าร่วมประชุม The 2nd Belt and Road Conference on Science and Technology Exchange (2nd BRST) ระหว่างงวันที่ 11 – 12 มิ.ย.2568 โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนเป็นเจ้าภาพจัด ณ นครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน สถาบันวิศวกรรมศาสตร์จีน สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน รัฐบาลเทศบาลนครฉงชิ่ง และรัฐบาลมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
ในการประชุม BRST ครั้งนี้ น.ส.ศุภมาสได้รับเกียรติจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนให้เป็นผู้แทนรัฐมนตรีจาก 41 ประเทศ กล่าวในพิธีเปิดการประชุม ว่า อนาคตของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างประเทศควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเปิดกว้าง ความรับผิดชอบและผลประโยชน์ร่วมกัน นานาประเทศจึงต้องประสานความร่วมมือในระดับภูมิภาคและระดับโลกในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างของการพัฒนา ดังนั้น เวทีความร่วมมือ BRST ต้องไม่ลืมเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของการใช้กลไกความร่วมมือพหุภาคีด้านพหุภาคีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(S&T) เพื่อช่วยมนุษยชาติในการรับมือกับปัญหาและความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน การเสริมสร้างระบบสาธารณสุข การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
น.ส.ศุภมาส ยังได้เรียกร้องให้เวทีการประชุม BRST ร่วมมือกันเพื่อสร้างนวัตกรรมให้ประชาชนทุกกลุ่มได้เข้าถึงและได้รับประโยชน์ร่วมกัน และต้องไม่เพียงแค่มุ่งพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโลยีขั้นสูงเท่านั้น แต่ควรต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนอีกด้วย ซึ่งประเทศไทยพร้อมเป็นพันธมิตรในการร่วมขับเคลื่อน S&T เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกับนานาประเทศ
นอกจากนี้ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี น.ส.ศุภมาสได้กล่าวถ้อยแถลงว่า กลไกความร่วมมือพหุภาคีด้าน S&T ภายใต้ BRI โดยการร่วมแบ่งปันทรัพยากร องค์ความรู้ แนวปฏิบัติที่ดีและการแลกเปลี่ยนบุคลากรจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างขีดความสามารถในการพัฒนา และยังได้เสนอให้มีแพลตฟอร์มที่ให้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยรุ่นใหม่จากนานาประเทศได้ร่วมดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อรับมือกับความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญ ซึ่งไทยพร้อมทำงานเคียงข้างกับทุกภาคีในการใช้ S&T เป็นพลังและรากฐานสำคัญเพื่อสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมโลก และสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน
สำหรับการประชุม 2nd BRST ในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย.2568 ณ นครเฉิงตู ภายใต้หัวข้อ “Together for Innovation, Development for All-Jointly Building a Scientific and Technological Innovation Community for the Belt and Road” โดยมีการประชุมคู่ขนานในหัวข้อเกี่ยวกับ AI เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน นิวเคลียร์เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานในอนาคต เทคโนโลยีข้อมูลอวกาศ การใช้ S&T เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน เทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์สมอง นวัตกรรมการแพทย์แผนจีน เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมมากกว่า 6,000 คน จาก 91 ประเทศ ซึ่งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโลยีของจีนได้มุ่งเน้นความร่วมมือด้าน S&T ที่มีคุณภาพ เปิดกว้าง และไร้พรมแดน โดยเฉพาะความร่วมมือในกลุ่มประเทศโลกใต้ (Global south)
เผยแพร่ข่าว : นางสาวเยาวลักษณ์ ทับช้างโท
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center 1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.