เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน นางสาวสุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีเปิดหลักสูตรนโยบายเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการคาร์บอนสำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 1 (Carbon Management Technology and Innovation Policy for Executives #1) โดยมี ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สอวช.) นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รศ.ดร.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการ สอวช. นายสมิชฌน์ เพ็ชร์ดี ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมความยั่งยืน บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด อ.ดร.วิมลมาศ ศรีจำเริญ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เข้าร่วมการอบรม เข้าร่วม ณ โรงแรม Grande Centre Point Lumphini
นางสาวสุชาดา กล่าวว่า ปัญหาภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เรากำลังเผชิญอยู่ นับเป็นความท้าทายสำคัญระดับโลกและมีแนวโน้มทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งไม่เพียงสร้างความเสียหายกับบ้านเรือนพี่น้องประชาชนหรือจำกัดเพียงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในระยะสั้น แต่ยังส่งผลกระทบชีวิต สภาพความเป็นอยู่ รวมถึงเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาว ดังนั้น ประชาคมโลกรวมถึงประเทศไทยจึงควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการร่วมกันแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว ประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) และผู้ร่วมให้สัตยาบันความตกลงปารีส (Paris Climate Accords) ได้ประกาศเป้าหมายที่ท้าทายคือ การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero GHG Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065 อย่างไรก็ตามการนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้ได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ซึ่งล้วนเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
นางสาวสุชาดา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันสถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-tarif Barrier) ล้วนส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น ภาษีคาร์บอนหรือ Carbon Tax ที่เริ่มมีการบังคับใช้ในหลายประเทศ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทย ทำให้การจัดการคาร์บอนในระดับองค์กรหรือในห่วงโซ่การผลิตที่มีประสิทธิภาพ กลายเป็นความจำเป็นและความได้เปรียบในการแข่งขัน กระทรวง อว. โดย สอวช. ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการพัฒนานโยบายด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมและเป็นหน่วยประสานงานกลางด้านการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศภายใต้กรอบ UNFCCC ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้เป็น "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" (Change Agent) จึงได้มีการออกหลักสูตรนโยบายเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการคาร์บอนสำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 1 (Carbon Management Technology and Innovation Policy for Executives #1) ขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับองค์ความรู้ที่ทันสมัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการคาร์บอน ควบคู่ไปกับองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดทำนโยบาย เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับไปพัฒนาแผนงานและนโยบายการบริหารจัดการคาร์บอนในองค์กร รวมถึงสร้างความเข้าใจในแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ตลอดจนเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
.
.
.
.
“องค์ความรู้และเครือข่ายเหล่านี้ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรและร่วมกันนำพาประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนได้อย่างยั่งยืนต่อไป” เลขานุการ รมว.อว. กล่าว
ทำข่าว : นางสาวพรชิตา รุกขชาติ
ถ่ายภาพ : นายสุรกิจ แก้วมรกต
วิดีทัศน์ : นายปวีณ ควรแย้ม, นางสาวปาลิตา ตระกูลพานิชย์กิจ
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.