รู้จักแพลตฟอร์ม “LandX” ช่องทางเข้าถึงการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อบริหารจัดการการที่ดิน-รองรับมาตรการ EUDR
ใกล้ถึงวันบังคับใช้มาตรการ EUDR หรือกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EU) สร้างความตื่นตัวให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าทางการเกษตรไปยังตลาดสหภาพยุโรป
โดยผลกระทบหลัก ๆ จากเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบนี้ก็คือ ผู้ส่งสินค้าไปยังสภาพยุโรปต้องจัดเตรียมข้อมูลที่ระบุ Geo Location ของพื้นที่ปลูกหรือแหล่งวัตถุดิบที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่า ตำแหน่งนั้น ๆ ไม่ได้ซ้อนทับอยู่บนพื้นที่ป่า ตามแผนที่ป่าที่ EU แปลไว้ซึ่งเป็นปี 2563 หรือแหล่งอื่นๆ ที่คาดว่าทางสหภาพยุโรปจะใช้เป็นข้อมูลสำหรับการตรวจสอบเพื่อยืนยันในประเด็น Deforestation นอกจากนี้ยังต้องเป็นสินค้าที่ผลิตถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องของประเทศผู้ผลิต เช่น สิทธิในการใช้ที่ดิน สิทธิมนุษยธรรม สิทธิแรงงาน สิ่งแวดล้อม และศุลกากร โดยสินค้าควบคุมมี 7 ชนิด คือ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน กาแฟ ถั่วเหลือง โค โกโก้ และไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่เกี่ยวเนื่อง
ปัจจุบันการแสดงพิกัดแหล่งปลูก หรือ Geo Location อาจไม่ใช่ปัญหา เพราะคนรุ่นใหม่อาจจะคุ้นชินกับการปักหมุดบนแผนที่จากแอปพลิเคชั่นยอดนิยมต่าง ๆ แต่ประเด็นสำคัญ ก็คือ การตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงปี 2563 หรือปีก่อนหน้า ว่าไม่ใช่พื้นที่ที่เกิดจาการบุกรุกพื้นที่ป่า และต้องสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ น่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับของ EU
และ“ภาพถ่ายจากดาวเทียม” ก็คืออีกหนึ่งหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สำคัญที่จะเข้ามาตอบโจทย์นี้ โดยเฉพาะด้านการตรวจสอบย้อนกลับที่ EU ให้รับรองการพิจารณาตามข้อเท็จจริงเชิงพื้นที่จากภาพถ่ายดาวเทียมได้ (อ้างอิงจากการศึกษาแนวทางและจัดทำข้อเสนอกรอบนโยบายและแผนปฏิบัติการระดับชาติ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป : มกอช.)
ล่าสุด... สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อม “ชุดข้อมูลแผนที่ภาพถ่ายจากดาวเทียมของประเทศไทย” ที่จะสามารถยืนยันได้ว่าพื้นที่ที่เกษตรกรทำการเพาะปลูกอยู่นั้น เป็นพื้นที่ป่า หรือมีสิทธิในการใช้ที่ดินที่ถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและใช้ประโยชน์ในการสร้างหลักฐานรองรับ EUDR ผ่านแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า “LANDX ”
“นางธัญวรัตม์ อนันต์” ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักประยุกต์และบริหารภูมิสารสนเทศ GISTDA และผู้จัดการโครงการพัฒนาระบบภูมิสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดิน บอกว่า เนื่องจากแผนที่ป่าที่ EU ใช้ในการตรวจสอบย้อนกลับเป็นแผนที่ป่าปี 2563 และเป็นการแปลความในระดับ Global Scale ทั้งนี้ ระหว่างการตรียมพร้อมข้อมูล GISTDA ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน หนึ่งในนั้นก็คือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการ เพื่อนำพื้นที่ของเกษตรกรต้นทางที่ทำการเกษตรก่อนปี 2563 มาตรวจสอบ พบว่า ในบางพื้นที่ยังซ้อนทับอยู่บนพื้นที่ป่าของ EU แต่เมื่อได้ทำการตรวจสอบกับข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมแล้ว พบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เกษตรกรรมมาก่อนปี 2563 ดังนั้นหากมาตรการมีผลบังคับใช้ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 ธันวาคม 2568 สำหรับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ แม้ว่าประเทศไทยจะถูกจัดอยู่ในประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำก็อาจส่งผลกระทบต่อการออกสินค้านั้น ๆ ได้ หากไม่มีข้อมูลเชิงประจักษ์ดังกล่าวแสดงข้อมูล deforestation ที่ชัดเจน
“ดังนั้นสิ่งที่ประเทศไทยต้องทำก็คือ การใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ ยืนยันว่าพื้นที่เกษตรนั้น ๆ ไม่ใช่พื้นที่ป่าซึ่งการใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียม จะเป็นหลักฐานที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน”
นางธัญวรัตม์ บอกอีกว่า GISTDA ได้เตรียมชุดข้อมูลแผนที่ภาพถ่ายจากดาวเทียมประเทศไทยในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ EU กำหนด และปีก่อนหน้านั้น เพื่อจะเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีความถูกต้องได้มาตรฐานและสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าแปลงเพาะปลูกต้นทางของสินค้าจากเกษตรกรไทยที่ส่งไปไม่ใช่พื้นที่ป่า แต่เป็นแปลงเพาะปลูกพืชเกษตรต่าง ๆ โดยชุดข้อมูลดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วประเทศไทย ซึ่ง GISTDA ได้มีการจัดทำชุดข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมการใช้ประโยชน์ที่ดินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 มีความละเอียดระดับ 2 เมตร ปัจจุบันพัฒนาเพิ่มเติมในส่วนของข้อมูลดาวเทียมความละเอียดสูงระดับ 50 เซนติเมตรที่ได้จากดาวเทียม THEOS-2 ทำให้แผนที่ฐานหรือ Base Map ที่ใช้อยู่ เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ได้ชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ในทุก ๆ ปี GISTDA มีการอัปเดตแผนที่ฐาน ที่ผ่านการปรับแก้ความถูกต้องทางเรขาคณิต ( ภาพออร์โธ) เพื่อให้เป็นชุดข้อมูลที่ทันสมัย ถูกต้องและมีความแม่นยำเชิงตำแหน่งสูง
สำหรับแพลตฟอร์ม “LANDX” หรือ “Land Explorer” ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือในการนำเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่ง GISTDA ตั้งใจอยากจะให้เป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของที่ดินตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ ลักษณะทางกายภาพและข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับที่ดิน
และที่สำคัญเป็นช่องทางที่จะทำให้หน่วยงานทุกภาคส่วนสามารถเข้าถึงการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดาวเทียมได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะการทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสร้างหลักฐานยืนยันการทำเกษตรโดยปราศจากการบุกรุกพื้นที่ป่าตามกฎระเบียบ EUDR
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา GISTDA มีความร่วมมือกับ สคทช. ในการพัฒนาระบบติดตามการใช้ประโยชน์จากที่ดิน และจัดทำฐานข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่จัดที่ดินทำกินให้ชุมชนรวมถึงระยะกันชนโดยรอบ เพื่อใช้ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมความละเอียดสูงมาเป็นเครื่องมือและฐานข้อมูลสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินการตามภารกิจของ สคทช. ทั้งด้านติดตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน และป้องกันปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม
แพลตฟอร์ม “ LANDX” พร้อมเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายน 2568
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณธัญวรัตม์ อนันต์ หมายเลข 092-242-3954
สามารถติดตามบทความความรู้อื่นๆ ของ สทอภ. ได้ที่ คลิกที่นี่
ที่มา : สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.)
https://www.gistda.or.th/
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร (สอ.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : @MHESIThailand
Instagram : mhesi_thailand
Tiktok : mhesi_thailand
Twitter : @MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.