“เพชรดาว” ที่ปรึกษา รมว.อว. ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี ผลักดันวิทยาลัยชุมชนปัตตานี เป็นฟันเฟืองสำคัญนำความรู้สู่ชุมชน สร้าง “ความรู้ที่มีราก-นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ท้องถิ่น” ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ย้ำ ! นโยบายที่ดีต้องไม่ใช่สิ่งที่คิดเองคนเดียวในห้องประชุม แต่ต้องเริ่มจากความเข้าใจพื้นที่
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่ติดตามนโยบาย อว. ด้านการขับเคลื่อนบทบาทวิทยาลัยชุมชนเพื่อพัฒนาท้องถิ่นชายแดนใต้ พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอจากคณาจารย์ ภาคีเครือข่าย และนักศึกษา และเยี่ยมชมโซนกิจกรรมและนิทรรศการนักศึกษา วิทยาลัยชุมชนปัตตานี โดยมี นายสุทธิศักดิ์ น้ำทิพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนปัตตานี คณาจารย์ บุคลากร ให้การต้อนรับ ณ วิทยาลัยชุมชนปัตตานี
พญ.เพชรดาว กล่าวว่า วิทยาลัยชุมชนปัตตานี เป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเฉพาะตัว อย่าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกระทรวง อว. มีเจตนารมณ์มุ่งหวังให้ “การศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม” เป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “พื้นที่ที่เปราะบางแต่มีศักยภาพ” วิทยาลัยชุมชนคือด่านหน้าในการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา กระทรวง อว. ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงโอกาสของทุกกลุ่มคน วิทยาลัยชุมชนจึงมีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ในการเติมเต็มช่องว่างของระบบการศึกษา โดยไม่จำกัดเฉพาะการเรียนเพื่อปริญญา แต่รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะอาชีพ และการฟื้นฟูศักยภาพของคนทุกช่วงวัย
พญ.เพชรดาว กล่าวต่อว่า การขับเคลื่อนการเรียนรู้แบบ “Lifelong Learning for All” ไม่ควรเป็นเพียงคำขวัญ แต่ต้องเกิดจริง และวิทยาลัยชุมชนคือฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้เป็นจริงได้ในระดับพื้นที่ โดยต้องสร้าง “ความรู้ที่มีราก” และ “นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ท้องถิ่น” ในพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตเช่นปัตตานี เราไม่สามารถนำโมเดลสำเร็จรูปจากส่วนกลางมาวางตรง ๆ ได้ นโยบายของกระทรวงจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาเป็นผู้ออกแบบนวัตกรรมร่วมกับชุมชน เช่น การพัฒนาอาชีพจากทรัพยากรในพื้นที่ การนำภูมิปัญญามาต่อยอดเชิงเศรษฐกิจ การใช้เทคโนโลยีแบบง่ายเข้ามาช่วยให้ชาวบ้านทำมาหากินได้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มี “พื้นที่เรียนรู้” อย่างวิทยาลัยชุมชนที่เข้าใจชุมชน และทำงานร่วมกับชุมชนด้วยความไว้วางใจ กระทรวง อว. ต้องการให้วิทยาลัยชุมชนก้าวข้ามกรอบของสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิม และปรับตัวเป็น “หน่วยปฏิบัติการพัฒนาเชิงพื้นที่” (Area-based Action Unit) ซึ่งหมายความว่า ไม่ใช่แค่การเปิดห้องเรียน แต่คือการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ปัญหาจริง สร้างงานจริง และฟื้นฟูความหวังของคนในพื้นที่
“กระทรวง อว. พร้อมสนับสนุน และเปิดพื้นที่ให้ท้องถิ่นแสดงศักยภาพ นางสาวศุภมาส อิศรภัดดี รมว.การอุดมศึกษาฯ ได้เน้นย้ำว่า “นโยบายที่ดีต้องไม่ใช่สิ่งที่คิดเองคนเดียวในห้องประชุม แต่ต้องเริ่มจากความเข้าใจพื้นที่” และการลงพื้นที่ครั้งนี้ก็คือการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของกระทรวงในการฟังความเห็น เสียงสะท้อน และข้อเสนอจากหน้างานอย่างแท้จริง” พญ.เพชรดาว กล่าว
ในช่วงท้าย พญ.เพชรดาว ได้กล่าวถึงแนวคิด 3 ข้อในการพัฒนาวิทยาลัยชุมชนในระยะต่อไป คือ การคิดจากพื้นที่ โดยขับเคลื่อนจากราก รู้จักพื้นที่ เข้าใจคน นำความรู้และเทคโนโลยีมาทำให้เกิดผลจริง เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย การทำงานแบบบูรณาการ ผ่านการเชื่อมโยงกับภาคีที่หลากหลาย โดยเฉพาะกับท้องถิ่น สร้างผลกระทบ สามารถวัดและขยายผลได้ งานวิทยาลัยชุมชนต้องไม่ใช่งานเล็ก ๆ แต่ต้องต่อยอดได้ทั่วประเทศ
ทำข่าว : นางสาวพรชิตา รุกขชาติ
ถ่ายภาพ : นายฐิติพงศ์ แสงรักษ์
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3782
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.