DIPROM จับมือ วว. / THACCA / OFOS ร่วมเปิดงานส่งเสริมการตลาด พัฒนาระบบมาตรฐานสากลสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม “Thailand Soft Power DNA Food & Beverage 2025” ภายใต้โครงการการส่งเสริมการใช ...

       กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) ร่วมกับภาคีเครือข่ายพันธมิตร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และ สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) One Family One Soft Power (OFOS) ร่วมเปิดงานส่งเสริมการตลาด Thailand Soft Power DNA food & beverage ที่มุ่งเน้นกิจกรรมการพัฒนาระบบมาตรฐานสากลสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้การดำเนินโครงการการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ 2568 งานใหญ่แห่งปี !! ที่รวมสุดยอดนวัตกรรมเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน ด้วยพลัง Soft Power ของผู้ประกอบการไทยทั่วทั้งภูมิภาค ในการนี้ ในการนี้ ดร.พงศธร ประภักรางกูล รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาด้านอุตสาหกรรมชีวภาพ นางศิรินันท์ ทับทิมเทศ นักบริหารพิเศษ ผู้บริหาร บุคลากร วว. เข้าร่วมเป็นเกียรติด้วย โดยงานนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2568 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซ่า แจ้งวัฒนะ จ.นนทบุรี

       กิจกรรมภายในงานล้วนมุ่งเน้นการส่งเสริมตลาดและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ ประกอบด้วย 1) โซนนิทรรศการนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทย 2) โซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มไทยกว่า 50 บูธ 3) Workshop สาธิตการทำเครื่องดื่มจากภูมิปัญญาไทย 4) เวทีเสวนาการพัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสู่การเป็น Soft Power 5) โซนเจรจาธุรกิจ เพื่อขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกิจกรรม Live สด โดยอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังตลอด 3 วัน ได้แก่ TikTok : ยาม , Facebook : HatchTag และ TikTok : สายเลี้ยววว

        นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน กล่าวในตอนหนึ่งว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของการบูรณาการนโยบายซอฟต์พาวเวอร์เข้ากับศักยภาพของผู้ประกอบการไทย และที่สำคัญคือเป็นการแสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมการพัฒนาระบบมาตรฐานสากลสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้โครงการการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน

      “...ขอชื่นชมผู้ประกอบการทั้ง 51 ราย ที่ได้เข้าร่วมโครงการและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการพัฒนาตนเองและผลิตภัณฑ์ของสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานสากล ผลงานที่จัดแสดงภายในงานล้วนเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างสรรค์และต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีคุณค่า ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง "Thailand Soft Power DNA" ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเอง และเป็นประตูสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในระดับสากลต่อไป กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมพร้อมสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้สามารถร่วมกันสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง...” รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวสรุป

       นายกิตติโชติ ศุภกำเนิด ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ในการผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในสาขาอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งใน 11 อุตสาหกรรม ที่มีศักยภาพและโดดเด่นสูง โดยเป็นหนึ่งในเสาหลักที่ 3 ของยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจเพื่อยกระดับขีดความสามารถของซอฟต์พาวเวอร์ไทย พัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มให้ได้มาตรฐานสากล สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานได้ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจชุมชน มีการบรรยายพิเศษทเกี่ยวข้องกับสถานการณ์การกีดกันทางการค้า สถานการณ์ความต้องการบริโภคสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในและต่างประเทศ การเจาะตลาดกลุ่มเป้าหมายและการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ

     ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงกลยุทธ์การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันการวิเคราะห์ต้นทุน การผลิตและการตั้งราคาขายเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ รวมทั้งมีการลงพื้นที่ของผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ด้านการพัฒนา/ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และด้านการพัฒนาระบบมาตรฐานสากล รวมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกและพัฒนาศักยภาพ ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับความต้องการของตลาด และมีความพร้อมในการขอการรับรองระบบมาตรฐาน ที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

       ผศ.ดร.วีรชัย อาจหาญ ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า วว. ร่วมบูรณาการดำเนินงานกับภาคีเครือข่ายในฐานะหน่วยงานหลักในการให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่ม ภายใต้โครงการการส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไทยสู่ตลาดโลกอย่างยั่งยืน โดย วว. มีความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) มาประยุกต์ใช้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย ตลอดการดำเนินโครงการที่ผ่านมา วว. มีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาเชิงลึกแก่ผู้ประกอบการทั้ง 51 รายที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่การพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ การปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงการให้ความรู้ด้านการขอการรับรองมาตรฐานสากล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทั่วโลก เชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินค้า แต่คือผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นและความร่วมมือในการนำนวัตกรรมมาขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

     “...วว. พร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของผู้ประกอบการไทยทุกคน เราไม่ได้หยุดอยู่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน แต่เราพร้อมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการขอการรับรองมาตรฐานสากลที่สูงขึ้น และพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ สู่การสร้างโอกาสและช่องทางการจำหน่ายใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ของผู้ประกอบ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลสำเร็จของการดำเนินกิจกรรมสู่สาธารณชนในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันให้อุตสาหกรรมอาหารของไทยเป็น Soft Power ที่มีพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยและของโลกอย่างแท้จริง...” ผู้ว่าการ วว. กล่าวยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของ วว. และพันธมิตร

เผยแพร่ข่าว : นางสาวเยาวลักษณ์  ทับช้างโท

สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center 1313